Developpement durable

Energies alternatives

Apprenons le developpement durable à nos enfants

Boursicots

Fête Nationale et feu d'artifice (วันชาติฝรั่งเศส)

ถือเป็นวันสำคัญของประเทศเค้าจริงๆ งานนี้มีการมอบยศ มอบรางวัลแก่ข้าราชการดีเด่น การเดินสวนสนามของเหล่าบรรดาทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมทั้งผู้มีเกียรติต่างๆ เช่น Maire de Bourges นายทหารเก่าวัยเกษียณที่พร้อมใจกันมาร่วมงานนี้ แล้วก็มีวงดุริยางค์บรรเลงเพลงต่างๆ ไพเราะและประทับใจในความพร้อมเพรียงร่วมมือร่วมใจกัน คนยืนดูสองข้างทางเยอะเลย อีกทั้งเด็กเล็กเด็กโต

Les achats (shopping)

น้ำหอม นักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมซื้อน้ำหอมยี่ห้อที่ฝรั่งเศสเป็นต้นตำรับ ซึ่งราคาจะถูกกว่าที่นำมาขายในต่างประเทศมาก เมืองที่มีชื่อเสียงในการผลิตหัวน้ำหอมกลิ่นต่างๆ ได้แก่เมืองนีส คานส์ ริเวียร่า เป็นต้น ยี่ห้อน้ำหอมที่ขึ้นชื่อที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าตำรับได้แก่ Christian Dior และน้ำหอมของ Caron, Givenchy, Rochas, Guerlain, Paco Rabanne เป็นต้น
เสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่น ฝรั่งเศสมีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะศูนย์รวมของดีไซเนอร์ชื่อดัง และเป็นต้นฉบับของแฟชั่นทั่วโลก
เครื่องดื่ม ที่มีแอลกฮอล์ฝรั่งเศสมีชื่อด้านนี้อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การเป็นแหล่งผลิตของไวน์ และแชมเปญที่สำคัญที่สุดของโลกในปัจจุบันไวน์ (Vin) หรือเหล้าองุ่นเริ่มผลิตขึ้นในฝรั้งเศสเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยุคโรมัน โดยกองทัพโรมันที่เข้าปราบปรามอนารยชนได้นำวิธีการทำเหล้าองุ่นมาเผยแพร่และได้สืบทอดการทำไร่องุ่น และเหล้าไวน์มาจนปัจจุบัน ในหมู่นักดื่มไวน์นั้น ถือว่าไวน์ฝรั่งเศสเป็นไวน์ที่ดีทีสุดในโลก แหล่งผลิตไวน์ที่ขึ้นชื่อไดแก่ บอร์โดซ์ (Bordeux) เบอร์กันดี ชองปาญ อัลซาส ลัวร์ โรน โพรวองซ์ จูราและซาวอย และทางตอนใต้สุดของประเทศ

ไวน์แบ่งออกเป็น 3 สี คือ
ไวน์ขาว (Blanc)

ไวน์แดง (Rouge)

ไวน์สีชมพู (Rose)

โดยทั่วไปจะนิยมไวน์ขาว และไวน์แดง แต่ไวน์สีชมพูจะไม่เป็นที่นิยมและมักถือว่าเป็นไวน์ที่ดื่มเล่นๆเสียมากกว่า
รสชาติของไวน์นั้นจะแบ่งออกเป็น

But = ธรรมดา

Sec = หวานเล็กน้อย

Demi-sec = หวาน

Doux = หวานมาก

beurre(เนย) demi-celte

เนยผู้ยิ่งใหญ่

BEURRE

La Restauration de 1815 marque le début d’une nouvelle tentative de monarchie constitutionnelle, mais les tensions des règnes de Louis XVIII puis surtout de Charles X conduisent à la Révolution de 1830 qui porte Louis-Philippe Ier au pouvoir. De 1830 à 1848, la Monarchie de Juillet est un régime soutenu par la bourgeoisie, mais qui suscite une opposition légitimiste, bonarpartiste et surtout républicaine.
Cette dernière entraîne la révolution de février 1848 qui voit une tentative de régime présidentiel, la Seconde République.
Le 2 décembre 1851, le président de la République, Louis-Napoléon Bonaparte, neveu de Napoléon Ier, organise un coup d’État. Le 14 janvier 1852, il est nommé empereur sous le nom de Napoléon III. Sous le Second Empire, le pays connaît les débuts de la deuxième industrialisation, impulsée par des orientations économiques libérales, fondées sur des constructions capitalistiques fortement structurantes (banques d’affaires, compagnies de chemin de fer et maritimes, industries lourdes et textiles, grands magasins, etc.). Sur le plan de la politique extérieure, Napoléon III s’assure la confiance du Royaume-Uni (guerre de Crimée) qui permet d’assoir l’influence de la France au Proche-Orient tandis que son action en Italie, contre l’Autriche, est couronnée de succès et conduit à la réunion à la France de régions du Piémont (Savoie, Nice). Néanmoins, de graves revers ternissent considérablement l’image du régime, et renforcent une opposition extérieure (Victor Hugo) et intérieure. Le pari de la lutte contre la Prusse pour redonner un certain lustre à l’Empire, précipite en fait sa chute. Il se termine ainsi en 1870 après la défaite de Sedan. La perte de l’Alsace-Lorraine et les considérables indemnités dues à l’Empire allemand créé à la faveur de l’avantage pris par la Prusse, conduisent à un ressentiment national fort (la Revanche).

Dans l'enfer blanc

Bonjour tout le monde สวัสดีจ้าทุกคน ขอว้าวไทยหน่อยเด้อ! เฮย...-_- ตอนนี้ก็เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว ฝนก็เรื่มตก งานก็เริ่มมา มามากกว่าฝนซะอีก คิดแล้วเซ็งนิดๆ แต่เราก็ต้องอดทนเพื่อความสำเร็จในภายภาคหน้า ข้าพเจ้าก็อยากจะฝากไว้เท่านี้แหละ อย่าลืมดูแลสุขภาพกันทุกคนน่ะ ลาก่อน Au revous.